วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หนังก็คือหนัง...วันยังค่ำ

      สวัสดีครับ   ท่านผู้อ่านทุกท่าน   คงไม่มีใครปฏิเสธว่า   การดูหนังหรือภาพยนตร์นั้นเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่   เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย   ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป   แถมยังสนุกและมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว   สำหรับท่านที่ดูหนังมากๆ และสม่ำเสมอ คงจะเริ่มสังเกตุเห็นบางสิ่งบางอย่างที่หนังยอดนิยมมีร่วมกัน   โดยที่ปัจจัยบางอย่างก็ขึ้นอยู่กับยุคสมัยด้วย
     เอาละครับ...เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าหนังยอดนิยมทั้งหลาย มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างไรบ้าง   ซึ่งผมคิดว่าถ้าหนังขาดเอกลักษณ์เหล่านี้ไปแล้ว   ก็อาจจะทำให้ดูไม่ค่อยเหมือน"หนัง"สักเท่าไหร่   อย่างไรก็ตาม   ถ้าหนังเหล่านี้มีความเป็น"หนัง"มากเกินไปแล้ว   ก็คงจะทำให้น่าเบื่อหน่ายได้เหมือนกัน
     ๑. พระเอกกับนางเอกมักจะมีฐานะแตกต่างกัน   เช่น   พระเอกเป็นลูกชายประธานบริษัท   และนางเอกมาสมัครงานเป็นลูกจ้างบริษัท   เป็นต้น(หนังไทย)
     ๒. ถ้าเป็นหนังที่พระเอกมีฐานะต่ำต้อย   และมารู้จักกับนางเอก   แล้วในฉากสุดท้ายของเรื่อง   พระเอกมักจะเปิดเผยตัวจริง ว่าตนเองเป็นตำรวจปลอมตัวมา   และมักจะมียศอย่างต่ำเป็นร้อยตำรวจตรีขึ้นไป(หนังไทย)
     ๓. หนังมักจะเริ่มต้นด้วยการที่นางเอกและพระเอกไม่ชอบหน้ากัน   และจบลงด้วยการหลงรักและแต่งงานอยู่ร่ำไป(หนังไทยและฝรั่ง)
     ๔. ในฉากการต่อสู้ในตอนท้ายๆของเรื่อง   ไม่ว่าพระเอกกับผู้ร้ายจะมีอาวุธในมือกันมากมายเพียงใดก็ตาม   แต่ในที่สุดก็จะทิ้งอาวุธทั้งหมด   และใช้มือเปล่าเข้าต่อสู้ตะลุมบอนกันทุกที   โดยไม่ทราบสาเหตุว่า   โยนอาวุธทิ้งไปทำไม?(หนังทุกประเทศ)
     ๕. หัวหน้าผู้ร้ายมักจะตายยากกว่าลูกน้อง   และมักจะตายหลังลูกน้องคนอื่นๆ   ซึ่งจริงๆแล้ว   ในบางครั้ง   การต่อสู้กันด้วยปืนในช่วงชุลมุนนั้น   หัวหน้าผู้ร้ายอาจถูกลูกหลงและตายไปก่อนที่ลูกน้องจะตายกันหมดก็เป็นได้   แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน   และหัวหน้าผู้ร้ายมักจะถูกพระเอกยิงหลายนัด   ถึงจะยอมตายกันได้   ไม่รู้ว่าจะหนังเหนียวไปถึงไหน(หนังทุกประเทศ)
     ๖. ถ้าเป็นเรื่องของคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน   ซึ่งเรามักจะคาดเดาลำบากว่า   ใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่   แต่แล้ว...เมื่อถึงช่วงสถานการณ์สุกงอมเข้าขั้นวิกฤต   ฆาตกรก็มักจะออกมาสารภาพต่อหน้าพระเอก หรือนางเอกเสียเอง   แถมยังเล่าเหตุการณ์โดยละเอียดว่า   เหตุการณ์เป็นอย่างไรมาอย่างไรบ้าง   คงเป็นเพราะเกรงว่า   พระเอก หรือนางเอกจะไม่เข้าใจสิ่งที่ตนเล่า(หนังฝรั่ง)
     ๗. ผู้ร้ายในหนังมักจะประมาท   สังเกตุได้จาก   เวลาที่มีฉากยิงต่อสู้กัน   ผู้ร้ายมักจะโผล่ออกมาจากที่กำบัง   และยืนจังก้ายิงต่อสู้อย่างไม่ระมัดระวัง   ไม่ยอมนอนราบยิงอย่างที่ควรจะทำ   สุดท้ายก็เลยได้ตายสมใจ ซึ่งเป็นการตายที่ง่ายเกินไป(หนังทุกประเทศ)
     ๘. ในหนังที่มี"สัตว์ประหลาด"(รวมทั้งปีศาจและมนุษย์ต่างดาว)   พระเอก หรือนางเอกมักจะสะเพร่าเลินเล่อในการกำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้ให้สิ้นซากจริงๆ   ทำให้มีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ตายหลงเหลืออยู่เพื่อไปอาละวาดในหนังภาคต่อไป(หนังฝรั่ง)
     ๙. รสนิยมของพระเอก หรือนางเอกในเรื่องรถยนต์นั้น   จะวนเวียนอยู่แค่รถสปอร์ตเปิดประทุน กับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ(SUV)เป็นส่วนใหญ่(หนังฝรั่ง)
     ๑๐.พระเอก หรือนางเอกมักเป็นคนไม่รักทรัพย์สมบัติของตัวเอง   ซึ่งสังเกตุได้จากเวลาลงจากรถทีไรไม่เคยล็อคประตูรถเลย(หนังฝรั่ง)
     ๑๑.ไม่ว่าสถานการณ์จะแย่เพียงใด   พระเอก หรือนางเอกก็มักจะ"รอดตัว"ได้เสมอ(หนังทุกประเทศ)
     ๑๒.ตัวละครหลายตัวมักตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างขาดเหตุผลที่เหมาะสม   เช่น   ทีมค้นหาไดโนเสาร์ในเรื่อง THE LOST WORLD ประสบปัญหารถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ตกเหว   และแก้ปัญหาด้วยการเอารถMercedes Benz M-classคันเล็กๆไปพยายามลากรถคอนเทนเนอร์ขึ้นมา...สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ(หนังฝรั่ง)
     ๑๓.ในหนังผี   ตุ่มน้ำมักจะมีปริมาตรมากกว่าปกติ   สังเกตได้จากคนไม่น้อยกว่า ๑๐ คนวิ่งหนีผี(โดยเฉพาะผีปอบ)ไปลงในตุ่มใบเดียวกันได้หมด(หนังไทย)
     ๑๔.เวลาตัวละครที่แสดงเป็นสามีกลับจากที่ทำงานมาถึงบ้าน   มักมาเจอภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ทุกทีไป   และมักจะมีการกอดจูบกันจนถึงขั้นเต้นรำด้วยกัน   ทำให้สงสัยว่า   ภรรยาคงมัวแต่ทำกับข้าวทั้งวัน(หนังฝรั่ง)
     ๑๕.พระเอกมักจะขับขี่ยานพาหนะได้หลายอย่าง   ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน   มอเตอร์ไซค์   รถบรรทุก   รถแทรกเตอร์   เรือยนต์   เจทสกี   เฮลิคอปเตอร์   เครื่องบินไอพ่น...จนกระทั่ง...ยานอวกาศ   ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปฝึกมาจากไหน   นอกจากนั้นยังสามารถใช้อาวุธทุกประเภท   อุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์  และคอมพิวเตอร์ได้ชำนาญอย่างไม่มีที่ติ(หนังฝรั่ง)
     ๑๖.ตัวละครสำคัญที่รู้ความลับว่า   ผู้ร้ายคือใคร   มักจะถูกทำร้ายจนปางตาย   และก็มักจะเหลือลมหายใจรวยรินในเวลาที่พระเอก หรือนางเอกไปพบเข้า   จากนั้น   พระเอก หรือนางเอกก็จะพยายามถามว่า   ใครคือผู้ร้าย   เขาผู้นั้นก็ไม่ยอมปริปากบอกเสียที   ได้แต่ส่งเสียงอึกอักเหมือนกำลังจะขาดใจ   และสุดท้าย   เขาก็ไม่เคยบอกได้ทันเลยว่า   ใครคือผู้ร้าย   เพราะจะขาดใจตายไปก่อนทุกที(หนังทุกประเทศ)
     ๑๗.คุณหมอมักไม่ค่อยใส่ท่อช่วยหายใจในผู้ป่วยที่มีอาการหนักมาก   ส่วนใหญ่จะจัดให้แค่หน้ากากออกซิเจนเท่านั้น(หนังไทยและหนังฝรั่งบางเรื่อง)
     ๑๘.ตัวละครที่ถูกยิงมักจะมีเลือดออกทางปาก   รวมทั้งจอมยุทธ์ที่ถูกพลังฝ่ามือกระแทกบริเวณหน้าอกหรือหน้าท้องด้วย   ซึ่งชวนให้สงสัยเหมือนกันว่า   เลือดออกมาจากเส้นเลือดเส้นไหน?(หนังทุกประเทศ)
     ๑๙.พระเอกกับนางเอกมักมีรสนิยมชอบวิ่งไล่กันบนเนินเขาที่มีทุ่งหญ้า   รวมทั้งชอบวิ่งหลอกล่อกันตามต้นไม้ใหญ่(หนังอินเดีย)
     ๒๐.ไม่ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของรังที่อยู่ของผู้ร้ายจะแน่นหนามากเพียงใดก็ตาม   พระเอกก็มักจะมีช่องทางแอบบุกเข้าไปในรังของผู้ร้ายได้สำเร็จทุกทีไป(หนังฝรั่ง)
     ๒๑.ผู้ที่แสดงเป็น"หมอ"ในสมัยก่อนมักจะ"อาวุโส"และ"อ้วนลงพุง"   แต่ในหนังยุคหลังๆมานี้   หมอมักจะดู"หนุ่มและผอม"กว่าเดิม   ก็เลยทำให้สงสัยว่า   หมออาวุโสและอ้วนไปอยู่ที่ไหนกันหมด(หนังไทย)
     ๒๒.ตัวละครในหนังมักจะมีฐานะร่ำรวยเป็นส่วนใหญ่   ซึ่งสังเกตุได้จากเวลาที่เจ็บป่วยมักจะได้นอนพักรักษาตัวที่"ห้องพิเศษ"ของโรงพยาบาลเอกชนทุกทีไป(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๒๓.ในหนังสมัยก่อน   บ้านพระเอก หรือนางเอกมักจะใหญ่โตเหมือนปราสาทราชวัง   และมีคนรับใช้นับสิบคน   แต่ในยุคหลังๆมานี้   บ้านมักจะมีขนาดเล็กลง   และมีคนรับใช้แค่ ๑ คน หรือไม่มีเลย(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๒๔.ละครมักจะมีฉากหลักอยู่แค่ ๓ ฉาก   คือ ฉากเจ้านายกินข้าว   ฉากคนรับใช้จับกลุ่มนินทาเจ้านาย   และฉากไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๒๕.นางเอกมักจะดื่มนมสดก่อนนอน   และมักจะดื่มน้ำส้มคั้นเวลารับประทานอาหารในร้านอาหารนอกบ้าน(ละครโทรทัศน์ไทย)  
     ๒๖.ถ้ามีฉากงานเลี้ยงสังสรรค์ใกล้สระว่ายน้ำแล้วมักจะมีคนอย่างน้อย ๑ คนพลัดตกลงไปในสระว่ายน้ำ   ซึ่งมักเป็น"ตัวอิจฉา"(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๒๗."ตัวอิจฉา"มักจะใจร้อน   พูดเสียงดัง   และสวยน้อยกว่านางเอก(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๒๘.ในการแข่งขันกีฬา   ฝ่ายพระเอก หรือนางเอกมักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ก่อนในช่วงแรกของเกมส์  แต่ในที่สุดก็สามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้แม้กระทั่งในนาทีสุดท้าย   จากนั้น   พระเอก หรือนางเอก หรือโคช ก็จะถูกกลุ่มนักกีฬาพากันจับโยนขึ้นลงๆด้วยความดีใจ(หนังทุกประเทศ)
     ๒๙.พระเอกมักจะยิงปืนแม่นกว่าผู้ร้าย   ในขณะที่ผู้ร้ายยิงกี่นัดๆก็ไม่ค่อยจะโดนพระเอกเลย(หนังทุกประเทศ)
     ๓๐.ในหนังประเภทเขย่าขวัญสั่นประสาท   เมื่อตัวละครที่เป็น"เหยื่อ"เดินเข้าไปในสถานที่ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกฆ่า   หนังมักจะกระตุกอารมณ์คนดูด้วยการหาคนอื่น หรือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ฆาตรกรเข้าไปประชิดตัว"เหยื่อ"เสียก่อนพอเป็นออร์เดิฟ   เช่น   ให้เพื่อนของเหยื่อเอามือตะปบไหล่ของเหยื่อ   ให้แมวกระโดดผ่านหน้าเหยื่อ   เป็นต้น   หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงที่"เหยื่อ"จะถูกฆ่าจริงๆ(หนังฝรั่ง)
     ๓๑.เวลาที่ตัวละครในบ้านทะเลาะกันรุนแรง   ตัวละครอาวุโสที่มักแสดงเป็นพ่อแม่ของพระเอก หรือนางเอก   มักจะเกิดความเครียดอย่างรุนแรงจนกระทั่งมีอาการเจ็บหน้าอก   หรือเป็นลมหมดสติ   จนต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล...ประมาณว่าโรคหัวใจกำเริบ(ละครโทรทัศน์ไทย)
     ๓๒.ในหนังมักจะมีชาวอเมริกัน-เอเชียมาร่วมแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานใหญ่ๆอย่างน้อย ๑ คน(หนังฝรั่ง)
     ๓๓.ถ้ามีเหตุการณ์วิกฤติ   เช่น   ระเบิดเวลากำลังจะระเบิด   พระเอก หรือนางเอกมักจะไม่สามารถถอดสลักระเบิดได้ภายในเวลาอันรวดเร็วนัก   แต่มักจะถอดสลักระเบิดได้สำเร็จในเวลาที่"จวนเจียน"จริงๆทุกทีไป   ซึ่งก็คือ   ไม่เกิน ๕ วินาทีก่อนระเบิด(หนังฝรั่ง)
     ๓๔.ในหนังแอคชั่นที่มีปฏิบัติการชั่วร้ายที่สำคัญ   และมีการนัดพบกันในสถานที่ลับสุดยอด   ในช่วงเวลาที่พบกันมักจะเป็นเวลาที่ฝนตกหนักทุกทีไป...ทำไมไม่รอให้ฝนหยุดก่อนก็ไม่ทราบเหมือนกัน(หนังฝรั่ง)
     ๓๕.พระเอก หรือนางเอก...รวมทั้งผู้ร้ายด้วยนั่นแหละ มักใช้รถไม่ค่อยทะนุถนอม   ออกรถเร็ว   เลี้ยวรถด้วยความเร็วสูงจนท้ายรถปัดไปปัดมา(หนังฝรั่งและจีน)
     ๓๖.พระเอกคนเดียวมักจะสู้กับผู้ร้ายได้ทั้งฝูง(หนังฝรั่งและจีน)
     ๓๗.ผีไทยมักจะมีหน้าตาที่อัปลักษณ์กว่าผีประเทศอื่นๆ   ส่วนผีสัตว์เป็นผีที่หาดูยากมากทั้งๆที่ในแต่ละวันมีสุนัขถูกรถชนตายเป็นเบือ
     ๓๘.ถ้าผู้ร้ายอยู่ใกล้หน้าต่าง   หรืออยู่ริมแม่น้ำ   แล้วถูกพระเอกยิง   ร่างกายของผู้ร้ายมักจะกระเด็นกระดอนไปไกลจนหลุดออกจากหน้าต่าง   หรือตกจากราวสะพานลงไปในแม่น้ำ(หนังทุกประเทศ)
     ๓๙.ตำรวจมักจะมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากการต่อสู้ได้ยุติลงไปแล้ว(หนังทุกประเทศ)
     ๔๐.ตำรวจทางหลวงที่เรียกรถของผู้ร้ายให้หยุด   มักจะถูกผู้ร้ายฆ่าตายเป็นประจำ(หนังฝรั่ง)
     ๔๑.เวลาที่พระเอก หรือนางเอก หรือ"เหยื่อ"วิ่งหนีผู้ร้ายในอาคารต่างๆ   มักจะวิ่งหนีไปเจอแต่ประตูที่ล็อคไว้อยู่เรื่อยเลย   หรือพอจะหนีไปทางลิฟต์   ลิฟต์ก็ดันไม่มาสักที(หนังทุกประเทศ)
     ๔๒.เหตุการณ์สำคัญในหนังมักเกิดในอเมริกา   และวีรบุรุษที่ช่วยกู้สถานการณ์อันวิกฤติมักจะเป็นชาวอเมริกันซึ่งจะเห็นได้ชัดจากเรื่อง ID4,MARS ATTACKS เป็นต้น(หนังฮอลลีวูด)
     ๔๓.ในหนังชีวิต หรือDRAMAมักจะมีเหตุการณ์ที่พระเอก หรือนางเอกมายืนพูดคำคม หรือสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในแง่ของความเป็นธรรมในสังคม   ซึ่งมักจะเป็นฉากที่ซาบซึ้งกินใจ หรือเรียกน้ำตาผู้ชมได้มาก   และสุดท้ายก็จบลงด้วยชัยชนะของความถูกต้อง   ซึ่งจะพบฉากนี้ได้ใน A TIME TO KILL,SCENT OF A WOMEN,PATCH ADAM เป็นต้น(หนังฝรั่ง)
     ๔๔.พระเอก หรือนางเอกตายยากจริงๆ(หนังทุกประเทศ)
     ๔๕.ยังมีอีกเยอะเลย...
     ดูๆแล้ว   จะเห็นว่า   การทำภาพยนตร์ หรือหนังก็มีสูตรสำเร็จที่คล้ายคลึงกัน   ซึ่งมีทั้งสูตรสำเร็จประจำชาติ   และสูตรสำเร็จสากลที่หลายๆชาติใช้เหมือนๆกัน   สำหรับ"คนทำหนัง"ที่ต้องการให้หนัง"ขายได้"ก็คงต้องย่ำตามรอยเดิมกันต่อไปตามสูตรสำเร็จพวกนี้   แต่สำหรับคนทำหนังที่ต้องการมุมมองใหม่ๆ   ไม่ซ้ำซากจำเจ   ก็คงต้องพยายามหลีกเลี่ยงสูตรสำเร็จเหล่านี้   และคงต้องยอมเจ็บตัวกันสักหน่อยนะครับ   สวัสดีครับ

                                             -------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น